[ภาษาไทย] API Gateway vs Gateway API

API Gateway vs Gateway API: เข้าใจความแตกต่าง

API Gateway และ Gateway API มักถูกใช้สับสนว่ามีความหมายเหมือนกัน แต่แท้จริงแล้ว ทั้งสองมีความแตกต่างกันทั้งในแง่ของวัตถุประสงค์ การใช้งาน และเทคโนโลยีที่ใช้

API Gateway

API Gateway เป็นเซิร์ฟเวอร์เฉพาะทางที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนด่านตรวจสอบสำหรับ API ทำหน้าที่เป็นจุดเข้าหลักสำหรับการจัดการและควบคุมการร้องขอจากไคลเอ็นต์หลายรายไปยังคอลเลกชันของบริการแบ็คเอนด์หรือไมโครเซอร์วิซ

ฟีเจอร์หลักของ API Gateway

  • การรับรองความถูกต้องและการอนุญาต: ตรวจสอบว่าผู้ใช้มีสิทธิ์เข้าถึง API หรือไม่

  • การจำกัดอัตรา: ป้องกันไม่ให้ API ถูกโอเวอร์โหลดโดยการจำกัดจำนวนคำขอที่ผู้ใช้สามารถทำได้ในช่วงเวลาหนึ่ง

  • การปรับสมดุลการโหลด: กระจายคำขอไปยังอินสแตนซ์ API หลายตัวเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ

  • การแปลงคำขอ: แปลงรูปแบบคำขอจากไคลเอ็นต์เป็นรูปแบบที่ API แบ็คเอนด์เข้าใจได้

  • การวิเคราะห์การเข้าถึง: ติดตามและวิเคราะห์การเข้าถึง API

ตัวอย่างการใช้งาน API Gateway

  • การเปิดเผย API สาธารณะ: เปิดเผย API แก่ผู้ใช้ภายนอกเพื่อให้พวกเขาสามารถโต้ตอบกับแอปพลิเคชันของคุณได้

  • การจัดการ API ภายใน: จัดการ API ภายในองค์กรของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยและเชื่อถือได้

  • การผสานรวมแอปพลิเคชัน: เชื่อมต่อแอปพลิเคชันต่างๆ เข้าด้วยกันโดยใช้ API

Gateway API

Gateway API เป็นสเปซิฟิเคชัน Kubernetes ที่กำหนดวิธีการกำหนดค่าและจัดการ Ingress resources บน Kubernetes cluster

Ingress resources คือวัตถุ Kubernetes ที่ใช้กำหนดค่าวิธีการรับส่งข้อมูลไปยังบริการภายในคลัสเตอร์ Kubernetes

ฟีเจอร์หลักของ Gateway API

  • การกำหนดค่า Ingress resources: กำหนดค่าวิธีการรับส่งข้อมูลไปยังบริการภายในคลัสเตอร์ Kubernetes

  • การจัดการ Ingress resources: สร้าง แก้ไข และลบ Ingress resources

  • การตรวจสอบ Ingress resources: ตรวจสอบสถานะของ Ingress resources

ตัวอย่างการใช้งาน Gateway API

  • การเปิดเผยบริการ Kubernetes: เปิดเผยบริการ Kubernetes แก่ผู้ใช้ภายนอก

  • การรักษาความปลอดภัยของการรับส่งข้อมูล: รักษาความปลอดภัยของการรับส่งข้อมูลไปยังบริการ Kubernetes

  • การปรับขนาดแอปพลิเคชัน: ปรับขนาดแอปพลิเคชัน Kubernetes โดยใช้ Ingress resources

สรุป

API Gateway เป็นเครื่องมือสำหรับการจัดการและควบคุม API ในขณะที่ Gateway API เป็นสเปซิฟิเคชัน Kubernetes สำหรับการกำหนดค่าและจัดการ Ingress resources

ควรใช้ API Gateway เมื่อ:

  • คุณมี API หลายตัวที่ต้องจัดการ

  • คุณต้องการรักษาความปลอดภัยของ API ของคุณ

  • คุณต้องการปรับขนาดแอปพลิเคชันของคุณ

ควรใช้ Gateway API เมื่อ:

  • คุณใช้ Kubernetes

  • คุณต้องการกำหนดค่า Ingress resources

  • คุณต้องการตรวจสอบสถานะของ Ingress resources

ตารางสรุปความแตกต่าง

ลักษณะAPI GatewayGateway API
วัตถุประสงค์จัดการและควบคุม APIกำหนดค่าและจัดการ Ingress resources
เทคโนโลยีเซิร์ฟเวอร์เฉพาะทางสเปซิฟิเคชัน Kubernetes
การใช้งานเปิดเผย API สาธารณะ จัดการ API ภายใน ผสานรวมแอปพลิเคชันเปิดเผยบริการ Kubernetes รักษาความปลอดภัยของการรับส่งข้อมูล ปรับขนาดแอปพลิเคชัน

หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่างระหว่าง API Gateway และ Gateway API ได้ดีขึ้น

API Gateway และ Gateway API คือสองคำแสดงถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ API และการเชื่อมต่อระหว่างระบบต่าง ๆ ในโลกของเทคโนโลยีข้อมูล แม้ว่าสองคำนี้จะมีความคล้ายคลึงกันบ้าง แต่มีความแตกต่างที่สำคัญดังนี้:

API Gateway (เอพีไอ เกตเวย์):

    • บทบาทและฟังก์ชัน: API Gateway เป็นบริการที่ทำหน้าที่เป็น "ช่องทาง" หรือ "ประตู" สำหรับ API ที่ต่างกันในระบบ IT ขององค์กรหรือธุรกิจ เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อและจัดการ API ต่าง ๆ ได้ในที่เดียว นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันเสริมเช่น การปรับปรุงประสิทธิภาพ การจัดการเข้าถึง API, การควบคุมการทำงานของ API, และความปลอดภัย เป็นต้น

      • ตัวอย่าง: Amazon API Gateway, Apigee, Kong เป็นต้น

Gateway API (เกตเวย์ เอพีไอ):

    • บทบาทและฟังก์ชัน: Gateway API หมายถึงอินเทอร์เฟซที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างระบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบฐานข้อมูล, ระบบปฏิบัติการ, หรือแอปพลิเคชัน อินเทอร์เฟซนี้ทำหน้าที่เป็น "ประตู" หรือ "เชื่อมต่อ" ที่ช่วยให้แอปพลิเคชันหรือระบบต่าง ๆ สามารถเชื่อมต่อและสื่อสารกันได้

      • ตัวอย่าง: GraphQL Gateway, Microsoft API Gateway

ดังนั้น ความแตกต่างหลักคือ API Gateway เป็นบริการที่ใช้จัดการและควบคุม API ภายในองค์กรหรือธุรกิจ ในขณะที่ Gateway API เป็นอินเทอร์เฟซที่เชื่อมต่อระบบต่าง ๆ และเป็นตัวกลางในการสื่อสารระหว่างระบบเหล่านั้น

API Gateway และ Gateway API เป็นสองข้อความสำคัญที่มีความคล้ายคล้ายกัน แต่แตกต่างกันในความหมายและบทบาทในระบบประมวลผลแบบไร้เซิร์ฟเวอร์:

API Gateway

API Gateway เป็นระบบที่ทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการเรียก API จากแอปพลิเคชันส่วนหน้า และกำหนดเส้นทางคำขอเหล่านี้ไปยังบริการแบ็กเอนด์ที่เหมาะสม[1]. มันช่วยลดความซับซ้อนในการสื่อสารระหว่างไคลเอ็นต์และแอปพลิเคชันแบ็กเอนด์ โดยมีบทบาทสำคัญในการจัดการ ควบคุม และรักษาความปลอดภัยการไหลของคำขอ API ระหว่างไคลเอนต์และบริการแบ็กเอนด์หรือฟังก์ชันต่างๆ.

Gateway API

Gateway API เป็นระบบที่ทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการเรียก API จากแอปพลิเคชันส่วนหน้า และกำหนดเส้นทางคำขอเหล่านี้ไปยังบริการแบ็กเอนด์ที่เหมาะสม[1]. มันช่วยลดความซับซ้อนในการสื่อสารระหว่างไคลเอ็นต์และแอปพลิเคชันแบ็กเอนด์ โดยมีบทบาทสำคัญในการจัดการ ควบคุม และรักษาความปลอดภัยการไหลของคำขอ API ระหว่างไคลเอนต์และบริการแบ็กเอนด์หรือฟังก์ชันต่างๆ.

ความแตกต่าง

ความแตกต่างระหว่าง API Gateway และ Gateway API คือที่ API Gateway เป็นระบบที่ทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการเรียก API จากแอปพลิเคชันส่วนหน้า และกำหนดเส้นทางคำขอเหล่านี้ไปยังบริการแบ็กเอนด์ที่เหมาะสม[1]. ในขณะที่ Gateway API เป็นระบบที่ทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการเรียก API จากแอปพลิเคชันส่วนหน้า และกำหนดเส้นทางคำขอเหล่านี้ไปยังบริการแบ็กเอนด์ที่เหมาะสม[1].

ความสำคัญ

ทั้ง API Gateway และ Gateway API มีความสำคัญอย่างยิ่งในการจัดการ ควบคุม และรักษาความปลอดภัยการไหลของคำขอ API ระหว่างไคลเอนต์และบริการแบ็กเอนด์หรือฟังก์ชันต่างๆ. โดยทั้งสองระบบช่วยลดความซับซ้อนในการสื่อสารระหว่างไคลเอ็นต์และแอปพลิเคชันแบ็กเอนด์ และมีบทบาทสำคัญในการจัดการ ควบคุม และรักษาความปลอดภัยการไหลของคำขอ API.

การใช้งาน

ทั้ง API Gateway และ Gateway API สามารถใช้งานได้ในระบบประมวลผลแบบไร้เซิร์ฟเวอร์ โดยทั้งสองระบบช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้าง จัดการ และตรวจสอบ API ในระดับต่างๆ ได้. โดยทั้งสองระบบมีบทบาทสำคัญในการจัดการ ควบคุม และรักษาความปลอดภัยการไหลของคำขอ API.

ความยืดหยุ่น

ทั้ง API Gateway และ Gateway API มีความยืดหยุ่นและความสะดวกในการปรับใช้ที่มีให้. โดยทั้งสองระบบช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างและปรับใช้ API ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานแบ็กเอนด์มากนัก.

ความปลอดภัย

ทั้ง API Gateway และ Gateway API มีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาความปลอดภัยการไหลของคำขอ API. โดยทั้งสองระบบช่วยจำกัดอัตรา การแคช การบันทึกและการตรวจสอบ และการจัดการคำขอและการตอบกลับ เพื่อให้แน่ใจว่ามีเพียงผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่จะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงแอปพลิเคชันและทรัพยากรในแอปพลิเคชันของคุณ.

Citations:

[1] https://appmaster.io/th/glossary/ektewy-api-0
[2] https://aws.amazon.com/th/api-gateway/
[3] https://aws.amazon.com/th/what-is/api/
[4] https://blog.pjjop.org/build-api-gateway-and-monitoring-microservice-with-kong-prometheus-and-grafana/
[5] https://cloud.tencent.co.th/th/product/api-gateway

0
Subscribe to my newsletter

Read articles from วีระชัย แย้มวจี directly inside your inbox. Subscribe to the newsletter, and don't miss out.

Written by

วีระชัย แย้มวจี
วีระชัย แย้มวจี

P@Ge2mE