EP5: Case Study – ออกแบบ EA จริงในองค์กรระดับ Enterprise

---

🎯 บทนำ

แนวคิด Framework อย่าง TOGAF, Azure CAF หรือ Cloud Governance ฟังดูดีในทางทฤษฎี
แต่คำถามที่หลายคนอยากรู้คือ...

“พอนำไปใช้จริงในองค์กรระดับ Enterprise มันเวิร์กแค่ไหน?”
“จะออกแบบ EA ยังไงให้ทั้งฝ่าย Business และฝ่าย IT เข้าใจตรงกัน?”

บทความนี้คือ กรณีศึกษาจริง ที่ผมเคยมีโอกาสร่วมวาง EA และ Cloud Foundation ให้กับองค์กรขนาดใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมหนึ่งของไทย โดยเน้นความเป็นจริงแบบไม่มีแต่งเติม

---

🏢 พื้นหลังขององค์กร

• อุตสาหกรรม: Logistics & Manufacturing

• ขนาด: พนักงาน 5,000+ คน

• ระบบเดิม: ERP On-Premise, ระบบบัญชีแยกส่วน, ไม่มีศูนย์ข้อมูลกลาง

• เป้าหมาย: ย้ายสู่ Cloud อย่างเป็นระบบภายใน 2 ปี

---

🛠️ ความท้าทายหลักที่เจอ

---

🧩 วิธีออกแบบ EA ที่นำไปใช้ได้จริง

✅ 1. วาง Business Architecture ให้เข้าใจง่าย

• Mapping BU → Function → ระบบ → Pain Point

• ใช้ Workshop ร่วมกับผู้บริหารทุกแผนก

• เป้าหมาย: เห็นภาพรวม “ทั้งหมด” ขององค์กรบน 1 แผ่น

✅ 2. สร้าง Target Architecture ที่เชื่อม On-prem + Cloud

• ออกแบบ Hybrid Architecture บน Azure

• แยก Application ที่ควรย้าย (Cloud Ready) ออกจากที่ควรรอ (Legacy)

• ระบุ Key Domain เช่น Data, Identity, Cost ที่ต้องควบคุมให้ตรงกัน

✅ 3. จัด EA Layer ครบ 4 มิติ

---

🔄 เชื่อมโยงกับ Azure CAF และ TOGAF

• ใช้ TOGAF ADM ในการไล่ขั้นตอนตั้งแต่ Vision → Governance

• ใช้ Azure CAF ในช่วง Ready และ Adopt เพื่อปูทาง Landing Zone

• ผสาน DevOps Toolchain เข้ากับ Governance (เช่น IaC, RBAC, Policy as Code)

---

📊 ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

---

🧠 สิ่งที่ได้เรียนรู้

• EA ที่ดี ไม่จำเป็นต้องซับซ้อน แค่ต้อง “เชื่อมภาพใหญ่” ให้ทุกคนเข้าใจ

• การออกแบบ EA ต้องมี คนกลางเชื่อมฝั่ง Business กับ IT

• Framework คือเครื่องมือ — แต่ “บริบทองค์กร” คือสิ่งที่ต้องเข้าใจก่อน

---

✅ สรุป

การวาง EA ในองค์กรขนาดใหญ่ไม่ใช่เรื่องของเอกสารสวย ๆ แต่คือเรื่องของ “การเปลี่ยนความคิด” และ “การจัดระเบียบเทคโนโลยีให้สอดคล้องกับธุรกิจ”

หากใช้ Framework อย่างเข้าใจ บวกกับการสื่อสารที่ชัดเจน → Cloud Transformation จะเกิดขึ้นได้จริง

---

📘 ตอนถัดไป (EP6):

5 เครื่องมือที่ช่วยให้ Cloud Architect วาง EA ได้อย่างมืออาชีพ